ไพร์ม โรด กรุ๊ป และ เฟิร์ส โซลาร์ ร่วมฉลองความสำเร็จโซลาร์ฟาร์ม 18 เมกะวัตต์ ในไทย

ไพร์ม โรด กรุ๊ป และ บริษัท เฟิร์ส โซลาร์ อิงค์ (Nasdaq: FSLR) ร่วมฉลองความสำเร็จกับการก่อสร้างโครงการโซลาร์ ฟาร์มทั้ง 4 แห่งในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตรวม 18 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โดยโครงการไพร์ม โรด โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์การเกษตร (โครงการ) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี และได้ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดฟิล์มบางจากเฟิร์ส โซลาร์ มากกว่า 158,500 แผง ในการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด 29,600 เมกกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ต่อปีในปีแรก โครงการนี้พัฒนาขึ้นมาตามนโยบายของรัฐบาลในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร การดำเนินงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จนี้ จึงเป็นการตอกย้ำความสำเร็จครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของประเทศไทยในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ตั้งเป้าผลิตพลังงานทดแทนให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2579

Prime Road Group Co-op Project_Lat Lum Kaew

ไพร์ม โรด กรุ๊ป เป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการจากประเทศไทย ได้จับมือร่วมกับ เฟิร์ส โซลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และ บริษัท บวิค-ไทย จำกัด บริษัทย่อยของบวิคกรุ๊ปจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมและก่อสร้างให้กับโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ครอบคลุมการใช้งานมากถึง 12,000 ครัวเรือนต่อปี และช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 14,000 เมตริกตันต่อปี

Prime Road Group Co-op Project_Sena 1

“เราได้พัฒนาโครงการพลังงานทดแทนหลายโครงการทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น โดยโครงการไพร์ม โรด โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์การเกษตร เป็นการเพิ่มอีกหนึ่งโครงการคุณภาพในระดับภูมิภาคที่มีการพัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มของเรา” นายสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์ กรรมการบริษัท ไพรม์ โรด จำกัด กล่าว “ไพร์ม โรด ตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีฟิล์มบางของเฟิร์ส โซลาร์ เพราะมีคุณสมบัติเด่นด้วยประสิทธิภาพการผลิตพลังงานที่เหนือกว่า เมื่อเทียบกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบทั่วไป เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย”

แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดฟิล์มบาง รุ่นซีรีส์ 4 ของเฟิร์ส โซลาร์ ที่ติดตั้งในโซลาร์ฟาร์มทั้ง 4 แห่ง มีความเหมาะสมและทนทานต่อสภาวะแวดล้อมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการผลิตไฟฟ้าได้ดีกว่าเทคโนโลยีอื่นในการใช้งานที่อุณหภูมิสูง และแม้ในสภาพแสงน้อยก็ยังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า รวมถึงความชื้นในอากาศก็ไม่ทำให้การผลิตไฟฟ้าลดลงมากเหมือนเทคโนโลยีอื่น ความได้เปรียบเหล่านี้ส่งผลให้โครงการสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมากตลอดช่วงอายุโครงการเมื่อเทียบกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบเทคโนโลยีทั่วไป

Prime Road Group Co-op Project_Sena 2

“การดำเนินงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จนี้ นับเป็นโครงการสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผลิตไฟฟ้าด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของเฟิร์ส โซลาร์ และเราขอแสดงความยินดีกับ ไพร์ม โรด กรุ๊ป และ บวิค-ไทย ที่สามารถส่งมอบโครงการสำคัญนี้อย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี” โรเบิร์ต บาร์ทรอป ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน ของ เฟิร์ส โซลาร์ กล่าว “ความสำเร็จจากการร่วมงานกันของ เฟิร์ส โซลาร์ และ ไพร์ม โรด ในโครงการนี้ สะท้อนถึงความคุ้มค่าที่ส่งมอบจากเทคโนโลยีของเฟิร์ส โซลาร์ ซึ่งเหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมสนับสนุนโครงการอื่น ๆ อีกในอนาคต รวมทั้งสนับสนุนประเทศไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานทดแทน”

“บวิค-ไทย มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ และพร้อมยกระดับในการเพิ่มประสิทธิผล ด้วยการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดฟิล์มบางของเฟิร์ส โซลาร์ ให้กับโครงการ ไพร์ม โรด กรุ๊ป นี้” มร. แพริซ บาร์ด กรรมการผู้จัดการ บวิค-ไทย กล่าว

กระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการไพร์ม โรด โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์การเกษตรจะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในระยะเวลา 25 ปี ในอัตรา 5.66 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*